Let me in season5 ตอนที่ 2 "ลูกที่ได้รับความเกลียดชังจากครอบครัว"

 

Link >> http://www.tudou.com/programs/view/0gsi7dnPdX8/

 

คนที่1 "ลีแทบอม" เด็กหนุ่มวัย 20 ปี ผู้ถูกครอบครัวและโลกภายนอกทอดทิ้งให้อยู่ในโลกของความโดดเดี่ยว แม้แต่ในวันจบการศึกษา ก็ยังไม่มีคนจากครอบครัวมาร่วมแสดงความยินดีสักคน... อีกทั้งยังโดนเพื่อนล้อ และถูกมองว่าคางที่บิดเบี้ยวของเขานั้นเป็นเรื่องตลกนอกจากนี้ยังเคยโดนเพื่อนต่อยบริเวณกรามล่างอย่างแรงอีกด้วย ..

 

ลีแทบอมเริ่มรู้สึกตัวว่าคางของเขาเบี้ยวตั้งแต่อายุ 16 ปี ยิ่งโต คางยิ่งเบี้ยวมากยิ่งขึ้น ไม่สามารถอ้าปากกว้างๆ ได้ บวกกับมีอาการปวดที่กราม เขาทำได้แค่กินยาแก้ปวดบรรเทา และทนต่อไป .......เมื่อกลับบ้านที่ทุกคนคิดว่าเป็นที่ๆ อบอุ่นที่สุด แต่สำหรับเค้ากลับเป็นที่ๆโดดเดี่ยวมากกว่าเดิม ลูกชายที่อยากคุยกับแม่ แต่แม่กลับผลัดไว้ให้ไปคุยครั้งหน้า เพราะแม่กำลังยุ่ง ส่วนพ่อเมื่อเจอหน้าก็ไม่กล้าสบตา เพราะพ่อเอาแต่พูดจาดูถูกลูกชายอย่างเย็นชา ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่เคยได้รับความสนใจจากพ่อแม่ และด้วยการพูดที่ฟังดูเหมือนคนไม่มีแรง ไม่มีความมั่นใจ ทำให้เขาไม่สามารถผ่านการสัมภาษณ์งานได้เลย

 

แพทย์ได้วินิจฉัยว่า : เคสของลีแทบอมเนื่องจากเขาเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด ทำให้กระเพาะมีภาวะเลือดซึม ควรได้รับการช่วยเหลือด้านการสบฟันก่อนเป็นอย่างแรก เพื่อช่วยให้เขาสามารถทานอาหารได้เหมือนคนปกติ และเมื่อตรวจภายในแล้วยังพบว่า จมูกข้างหนึ่งไม่สามารถหายใจได้อีกด้วย

 

คนที่2 "ซอจีอึน" เด็กสาววัย 20 ปี ที่มีปัญหาเรื่องการสบฟันผิดปกติขั้นรุนแรง ทำให้ไม่สามารถกินอาหารได้อย่างปกติ และมักจะอาเจียนเนื่องจากอาหารไม่ย่อย เวลาออกไปข้างนอกผู้คนมักจะเข้าใจผิด คิดว่าหน้าเธอบวม แต่ถึงอย่างนั้น สถานที่ๆเธอกลัวที่สุด กลับกลายเป็นบ้านของเธอ พ่อที่อารมณ์เสียทุกครั้งเมื่อมองหน้าลูกสาว เอาแต่ดุด่าและตบตีลูกสาวทุกครั้งที่อยู่บ้าน เพียงเพราะหน้าตาที่บิดเบี้ยวของเธอนั่นเอง

 

แพทย์ได้วินิจฉัยว่า : เธอมีการสบฟันและรูปคางที่เบี้ยวผิดปกติอย่างรุนแรง รวมถึงการเคี้ยวอาหารเพียงข้างเดียวยิ่งส่งผลให้รูปหน้ามีโอกาสเบี้ยวได้มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ทางจิตแพทย์ได้ให้ความเห็นว่า สิ่งที่ควรได้รับการเยียวยามากที่สุด คือบาดแผลด้านจิตใจที่ได้รับจากพ่อของเธอมากกว่า การแก้ไขรูปลักษณ์ภายนอก *เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจระหว่างซอจีอึนและคุณพ่อ ทางรายการได้พาทั้งคู่เข้าคอร์สสานสัมพันธ์พ่อ-ลูก อาจต้องใช้เวลานานหน่อย แต่ก็หวังว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดีขึ้น 

​

เรียบเรียงและแปลด้วย STMstyle 
รูปภาพจากรายการ Let me in Korea  , CJ e&M

 

line Official : http://line.me/ti/p/%40stmstyle

เว็บไซต์ : www.stmstyle.com

โทร : 02-714-7665