
การดูดไขมัน (สะโพก, ก้น, น่อง, หน้าท้องด้านบน, หน้าท้องด้านล่าง, เอว, หลัง, เหนือหัวเข่า, ใบหน้า, หน้าอก)
ไขมันสะสมที่อยู่ตามร่างกายนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันที่เราทานเข้าไปเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่ที่แคลอรี่ที่รับเข้ามาด้วย และยังขึ้นอยู่กับการเผาพลาญของร่างกายเราอีกด้วย คนที่อ้วนไม่ได้หมายถึงคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะเท่านั้น แต่ต้องดูด้วยว่าไขมันสะสมในร่างกายหรือไม่ บางคนอ้วนเป็นส่วนๆก็มี
การดูดไขมันส่วนเกินของที่รพ.ของเกาหลี การดูดไขมันส่วนเกินในโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยนั้นจะ ไม่ใช่การผ่าตัดเอาก้อนไขมันออก ไม่ใช่การผ่าตัดเพื่อลดขนาดอวัยวะหรือลดขนาดตัว แต่จะเป็นการดูดไขมันส่วนเกินออก เป็นวิธีการทำบอดี้ไลน์ ที่เป็นธรรมชาติและสวยงามนั้นเอง
ก่อนดูดไขมัน : ก่อนอื่นต้องเช็คปริมาณไขมันและส่วนที่ไขมันสะสมอยู่ เพื่อดูว่าจะต้องดูดออกประมาณไหน รอยแผลนั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันและบริเวณที่ดูด
หลังดูดไขมัน : มีการตรวจเช็คร่างกาย และหลังผ่าประมาณ3-5วัน จะต้องใส่ชุดรัดรูปตรงส่วนที่ทำการดูดไขมันส่วนเกินและถ้าจะให้ดีควรใส่อย่างต่อเนื่องไปอีก 2-3 เดือน
ส่วนที่สามารถดูดไขมันได้
แขน
- ส่วนบนของแขนจะเป็นกล้ามเนื้อ เพราะฉะนั้นการดูดไขมันที่ต้นแขนจะต้องผ่าเป็นรอยแผลเล็กๆตรงข้อพับแขนแล้วทำการดูดออกมา
ใต้รักแร้
- การดูดไขมันใต้รักแร้นั้นทำได้ไม่ยากสามารถทำให้ส่วนที่ย้อยที่เกินออกมาให้หายไปได้อย่างง่ายดาย
หน้าท้อง
- จะใช้การผ่าเป็นรอยแผลเล็กๆบริเวณสะดือเพื่อดูดไขมันหน้าท้องออก ช่วงแรกๆต้องกดนวดบริเวณที่ท้องด้วย
ต้นขา
- การดูดไขมันไม่ว่าจะเป็นที่ต้นขาหรือก้นนั้น ต้องเป็นการดูดไขมันที่เหมาะสม พอเหมาะกับปริมาณไขมันที่มีอยู่ หากดูดออกหมดทีเดียวจะมีรอยย่นเกิดขึ้นที่ผิวหนังได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การดูดออกอย่างพิธีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นไขมันตรงส่วนด้านใน ด้านนอก ด้านหน้าเหนือเข่า ด้านหลังขา
น่อง
- ปกติส่วนใหญ่แล้วบริเวณน่องจะมีกล้ามเนื้อเสียเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยจะมีไขมันส่วนเกิน แต่ในกรณีที่มีไขมันสะสมอยู่มากๆนั้น ก็สามารถทำการดูดไขมันได้ ถ้ากรณีที่ไม่อยากให้น่องเห็นเป็นน่องปูดๆ ก็สามารถทำการลดกล้ามเนื้อลงได้โดยใช้คลื่นความถี่สูง
แก้ม
- สามารถลดได้โดยใช้คลื่นความถี่ต่ำ เพียงเล็กน้อยก็เห็นผลได้แล้ว
1.ใช้เวลาในการผ่าตัดที่น้อยกว่า เนื่องจากใช้สารละลายไขมันฉีดเข้าไปในชั้นไขมันปริมาณเล็กน้อย จึงใช้เวลาในการดูดไขมันน้อย (ไขมันหน้าท้องใช้เวลาไม่ถึง 1 ชม. ไขมันต้นขาใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม. ไขมันที่แขนใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที)
2. หลังผ่าตัดเสร็จเห็นผลได้ทันตา การฉีดสารละลายไขมันในชั้นไขมัน ทำให้เวลาดูดไขมันออกมาจะได้ไขมันจริงในปริมาณที่สูง
3.อาการบวมก็แทบจะไม่มี หรืออาจบวมน้อย แต่บวมไม่นาน
4.ใช้ระยะเวลาในการทำการดูดไขมันที่น้อย จึงใช้ยาสลบแบบยานอนหลับได้ หากเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดนานเท่าไรก็ยิ่งส่งผลร้ายต่อลูกค้าเท่านั้น แต่เทคนิคการแพทย์เกาหลีช่วยให้ลดระยะเวลาการผ่าตัดให้สั้นลง จึงทำให้การฟื้นตัวของผู้ป่วยเร็วขึ้น
5.หลังผ่าตัดสามารถที่จะออกจากโรงพยาบาลได้เลยภายใน 1- 2 ชั่วโมง
6.สามารถอาบน้ำได้เลยหลังจากวันผ่าตัด และสามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ได้ตามปกติ
7.การดูดไขมันหน้าท้องรอยผ่าเพื่อทำการดูดไขมันนั้นอยู่ที่สะดือจึงไม่เห็นรอยแผลเป็น แม้กระทั่งต้นขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดรอยแผล
8. ข้อเสียมีแค่อย่างเดียวคือ การศัลยกรรมแบบนี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของคุณหมอเป็นพิเศษ มีแพทย์จำนวนมากที่ทราบว่าวิธีการศัลยกรรมแบบนี้ดี แต่เทคนิคที่ใช้มีความละเอียดอ่อนและยากมาก หากไม่มีการสั่งสมประสบการณ์ก็ไม่สามารถทำออกมาได้ดีอาจทำให้ผิวดูเป็นก้อนๆ ขรุขระได้
ข้อควรระวังหลังผ่าตัด
-
การออกกำลังกายที่ต้องใช้กำลัง หรือการเล่นน้ำ ซาวน์น่า อบตัว แช่บ่อน้ำร้อนนั้นควรทำหลังจากทำการดูดไขมันได้ 3 อาทิตย์ขึ้นไป
-
หลังจากสามอาทิตย์ ทางโรงพยาบาลก็จะตัดชุดรัดรูปให้สวมใส่
-
ควรทำการนวดบริเวณที่ดูดเป็นเวลาหนึ่งเดือน อาทิตย์ละครั้ง หลังจากผ่านไป 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน สัดส่วนก็จะค่อยๆเล็กลงและกระชับอย่างเป็นธรรมชาติตามลำดับ
-
หลังผ่าตัดประมาณ 2-3เดือน ส่วนที่เป็นแข็งๆ เป็นก้อนที่มาจากผลของการดูดไขมัน จะค่อยๆคลายตัวและกลับสู่สภาพเดิมอย่างเป็นธรรมชาติ








หมายเหตุ: ภาพ before/after ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละบุคคลแตกต่างกัน
การดูดไขมันไม่ว่าจะเป็นที่บริเวณไหนต้องเป็นการดูดไขมันที่เหมาะสม พอเหมาะกับปริมาณไขมันที่มีอยู่ หากดูดออกหมดทีเดียวจะมีรอยย่นเกิดขึ้นที่ผิวหนังได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การดูดออกอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นไขมันตรงส่วนด้านใน ด้านนอก ด้านหน้าเหนือเข่า ด้านหลังขา หากศัลยกรรมแล้วยังมีส่วนที่ยังไม่ถูกใจ ถ้าจะศัลยกรรมใหม่อีกคร้งต้องรอให้เวลาผ่านไปประมาณ 6 เดือนก่อนถึงจะทำใหม่ได้อีกครั้ง