top of page

หนังสั้นที่คุณต้องดูก่อนตัดสินใจไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี

Nov.04, 2016 |  ฟลุ๊ก

     สวัสดีครับวันนี้ฟลุ๊กจะมาเล่าถึงประสบการณ์ศัลยกรรมของตัวเอง ฟลุ๊กมีอาชีพหลักเป็นนักแสดงครับ เร็วๆ นี้จะมีผลงานให้เห็นในซีรี่ย์ เพราะอาชีพของผมทำให้ผมค่อนข้างเป็นคนที่ดูแลตัวเองและสังเกตุตัวเองตลอดเวลา สำหรับวงการนี้เรื่องความสวยความหล่อนั้นเป็นเรื่องสำคัญครับ

 

     ฟลุ๊กรู้ตัวมาตลอดว่าตัวเองมีปัญหาจุดไหน ปัญหาตั้งแต่เด็กของเราเลยก็คือ โครงหน้าครับ เป็นคนที่โหนกแก้มสูงต้องค่อยฉีดโบท๊อกตลอด แล้วตอนเด็กๆ ช่วงมัธยมผู้ชายยังไงก็ต้องตัดผมสั้น ยิ่งสั้นก็ยิ่งเห็นขมับและกรามชัดเพิ่มไปอีก ปัญหาโหนแก้มทำให้มีปัญหาตาลึกเพิ่มด้วยนะครับ ดูเหมือนตาโบ๋

เห็นรูปไหมครับนี้คือรูปหน้าของผมจริงๆ ตาลึกมาก ผมคิดว่าเป็นเพราะโหนกแก้มผมสูงด้วย

 

     ผมคิดว่าการฉีดโบท๊อกนี่จะช่วยทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงและใต้ตาดูไม่ลึก แต่ว่าโบไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากขนาดนั้น แถมต้องเสียเงินทุกๆ 3-4 เดือนอีกตั้งหาก ผมหาข้อมูลมานานแล้วว่าวิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดโครงหน้า แล้วประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องศัลยกรรมก็คือเกาหลี จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้รู้จักกับการศัลยกรรมเกาหลี มาจากรายการเกาหลีรายการนึงครับ

         

     เค้าเอารูปมาเปรียบเทียบให้เห็นเลยว่าหน้าของนักร้องคนนี้ก่อนผ่าและปัจจุบันเปลี่ยนไปแค่ไหน ผมเลยเริ่มศึกษาหาข้อมูลมาเรื่อยๆ พอดีเพื่ิอนผม มาบอกว่ามีรุ่นพี่ทำบริษัทเกี่ยวกับศัลยกรรมกำลังหาโมเดลอยู่ ถ้าผมสนใจก็ลองถ่ายรูปมาให้ดูก่อน ผมนี่รีบเลยครับเพราะผมดูรายการ Let Me In มาก่อน อยากเกิดปาฏิหารย์กับเค้าบ้าง 555

     หลังจากที่ผมส่งรูปไปให้เค้าดู พี่เค้าก็นัดให้ผมเข้ามาประเมินกับคุณคิมผมนัดเข้ามาพร้อมเพื่อนผมที่เป็นคน

แจ้งข่าวผมนี่ล่ะครับผมดูรายการและศึกษามาเยอะเลยรู้จักกับบริษัทอยู่แล้วบริษัทนี้

เค้าทำรายการ Let me in คุณคิมที่ผมจะเข้าปรึกษาก็เป็นพิธีกรในรายการเป๊ะอยู่ครับมั่นใจว่างานนี้ไม่โป๊ะ 555

คนนี้เลย คุณคิม ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมความงามเกาหลีครับ^^

 

          ตอนแรกที่ผมส่งรูปมาพี่เค้าก็แจ้งว่าหน้าผมควรทำรูปหน้า ตอนเข้ามาตื่นเต้นนะครับ แต่ก็มั่นใจว่าเค้าต้องแนะนำสิ่งที่ดีและเหมาะสมให้กับผมครับ ผมกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติศัลยกรรมของผม ว่าทำอะไรมาก่อนบ้างฉีดอะไรมาบ้าง พี่เจ้าหน้าที่เน้นมากครับว่าต้องละเอียดอย่างโกหก เพราะจะได้ข้อมูลมาประเมิณได้จริง

 

          พอเจอคุณคิม ก็ถามย้ำผมอีกรอบก่อนที่แนะนำว่าผมควรทำอะไรบ้าง ผมของเริ่มเป็นจุดๆ ไปนะครับ

 

- โหนกแก้ม ผมแจ้งแต่แรกว่าผมอยากทำมันมาก คุณคิมบอกว่าหน้าผมต้องทำให้เล็กลง โหนกแก้มต้องทำอยู่แล้ว แล้วเค้าก็ให้ผมลองยิ้มดูครับ เลยรู้อีกอย่างว่าปัญหาของผมคือกรามและคางด้วย คุณคิมแนะนำให้ทำกรามและคางเพิ่ม เพราะเวลาที่ยิ้มหรือพูดจะเห็นว่าคางผมยื่น แต่เวลาทำหน้าปกติไม่เห็นนะครับ คางที่ยื่นเลยทำให้เสน่ห์ของผมลดลงครับ

เป๊ะตรงจุดมากครับ เพราะคางผมยื่นแต่บางคนบอกว่ามันโอเคแล้ว แต่มุมมองครับแต่ผมก็คิดว่ามันดูยื่นไป

พอได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญแบบนี้ผมก็มั่นใจมากขึ้นว่ามันเป็นปัญหาจริงๆ

 

-   จมูก คุณคิมแนะนำให้ผมทำส่วนนี้เพิ่มครับ ถามผมว่าสนใจทำไหม? ตอนแรกผมไม่อยากทำเลยครับเค้าเปิดรูปตัวอย่างเคสที่ใกล้เคียงกับของผมให้ดูตอนนั้นผมก็คิดว่าดูสวยดีนะแต่ผมไม่อยากทำเท่าไรเพราะผมเป็นคนมีดั้งอยู่แล้ว นอกจากนั้นจมูกก็ดูโอเคอยู่แล้วเพราะผมเคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน

อันนี้เป็นภาพแบบซูมมม หน้าให้เห็นชัดๆครับ ใต้ตาลึก แบบคล้ำด้วยครับ โหนกแก้มมองข้างๆนี่ชัดเลย

 

     ผมกลับบ้านไปปรึกษากับคุณแม่ผมครับว่าผมควรทำจมูกดีไหม ท่านบอกว่าถ้าเค้าแนะนำมาให้ทำ แสดงว่ามันเป็นสิ่งที่ดีควรทำ ผมเลยตัดสินใจว่าจะทำจมูกครับ ผมเริ่มศึกษาข้อมูลเพิ่มหลังจากที่ตกลงเรื่องวันเดินทาง ทางเอเจนซี่แจ้งให้ผมงดวิตามินก่อนเดินทางไปผ่าตัดเพราะจะทำให้เลือดออกเยอะ ผมเลยลองหาข้อมูลดูเพิ่มเติมถึงการเตรียมตัวเบื้องต้น ดูรูปรีวิวเตรียมใจว่าหลังจากทำจะบวมประมาณไหน จะได้เตรียมใจไว้แต่เนินๆ ครับ นอกจากนั้นผมก็ได้สอบถามกับกูรูศัลยกรรมเพิ่มเติม รุ่นพี่ผมคนนี้ทำศัลยกรรมมาเยอะมาก เค้าบอกว่าครับว่าไม่เจ็บ แต่ห่วงเรื่องบวมหน่อย แต่ผมสู้ครับ!

 

วันเดินทางถึงเกาหลี    

ถึงเกาหลีแล้วคร๊าบบบ ขอถ่ายรูปซะหน่อย อากาศแอบเย็นๆ ลมพัดแล้วแอบหนาว

 

             เนื่องจากอากาศที่เกาหลีช่วงกลางวันร้อนแต่ช่วงเย็นอากาศเย็นทำให้ผมมีอาการเหมือนจะเป็นหวัดนิดหน่อยครับ

สำหรับการเดินทางผมไม่มีปัญหาใดๆ ในการเข้าประเทศเพราะทางบริษัทจัดเตรียมเอกสารให้ผมแล้ว

มีจุดนัดพบที่ชัดเจนว่าให้รอคนมารับที่ตรงไหน

คนขับรถที่ทางเอเจนซี่ส่งมารับผมครับ ยืนใส่แว่นดำเก็กหล่ออยู่เลยครับ

    การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างเพลียครับเพราะเป็นการเดินทางไปถึงแล้วต้องเข้าโรงพยาบาลเลย ( แต่ผมแนะนำผู้ที่สนใจมาทำศัลยกรรมนะครับว่าให้พักผ่อนให้เพียงพอ ) พอเข้าโรงพยาบาลผมปรึกษาคุณหมอก่อนเลยครับ ล่ามของทางเอเจนซี่ประสานงานให้ผมทุกอย่าง ผมไม่ตื่นเต้นนะครับ ผมค่อนข้างชัดเจนในสิ่งที่ผมต้องการ ว่าผมอยากได้อะไร แบบไหน เช่น เรื่องจมูกผมกังวลมากว่าจะทำให้เรียวเล็กได้ไหม สามารถใช้กระดูกอ่อนได้ไหม

 

จุดที่คุณหมอแนะนำให้ผมทำนะครับ

     โหนกแก้ม  คุณหมอแจ้งว่าต้องเอาออกทั้งด้านหน้าและด้านข้าง แล้วก็ต้องทำกรามด้วยผถามหมอเพิ่มเติมว่าเคสผมนั้นเป็นขากรรไกรหรือป่าว? เพราะว่าผมเคยทำการดัดฟันมาก่อน ซึ่งก่อนดัดฟันล่างผมครอบฟันบนครับ คุณหมอบอกว่าเคสผมไม่ได้เป็นขากรรไกร แค่คางยื่นออกมามากเกินไปคุณหมอจะทำการผ่าตัดเลื่อนคางเข้าไป ส่วนปลายคางคุณหมอถามว่าอยากได้แบบงอนๆ ไหม? ผมก็แล้วแต่หมอนะครับ

 

     จมูก เป็นจุดที่ผมค่อนข้างซีเรียนะครับ ผมเอารูปตัวอย่างให้หมอดูนั้นก็คือรูปของคุณเจมส์จิครับ

ผมส่งรูป เจมส์-จิรายุ ให้คุณหมอเฉพาะทางด้านจมูกดูว่าอยากได้ทรงประมาณนี้

        จมูกผมมีฟิลเลอร์อยู่ด้วยคุณหมอบอกว่าต้องลองฉีดสลายดูก่อนหากไม่ออกก็ต้องขูดออก ผมก็โอเคนะ พ้อยของการทำจมูกของผมที่คุณหมอแจ้งไว้ก็คือทำให้เรียวและเล็กลง คุณหมอแจ้งว่าจมูกผมดูหนาไป

         เพราะผมไปฉีดฟิลเลอร์มาครับ  เนื่องจากผมเป็นผ่าตัดใหญ่เลยอยากพักผ่อนก่อนเลยระบุบวันผ่าตัดไว้ว่าจะผ่าวันรุ่งขึ้น

วันนี้แค่พบคุณหมอและตรวจร่างกายก่อนครับ ช่วงตรวจร่างกายผมกลัวว่าจะไม่ได้ผ่าตัดเพราะร่างกายไม่พร้อม ตอนนั้นเหมือนจะเป็นไข้เริ่มมีอาการเจ็บคอ และไม่สามารถที่จะกินยาได้นะเพราะก่อนผ่าเค้าจะระบุไว้ว่าต้องงดยาบางประเภท ก่อนผ่าตัดศัลยกรรม เพราะยาอาจมีผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า

        ลุ้นผลตรวจมากครับ ถามกับล่ามตลอด  สรุปผลออกมาปกติสามารถผ่าตัดได้แต่ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ

ตอนนี้ฟลุ๊กกำลังปรึกษากับคุณหมอก่อนที่จะทำการผ่าตัดศัลยกรรมครับแอบตื่นเต้นนะ

 

         วันผ่าตัดตอนแรกผมไม่ตื่นเต้นเลยนะ แต่พอเปลี่ยนชุดปุ๊ป ผมขอสวดมนต์ก่อนเลยตอนเข้าห้องผ่าตัดมือผมเริ่มเย็น 

ความตื่นเต้นมันกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ยังไงเดี๋ยวหลังจากผมผ่าตัดเสร็จ ผมสัญญาจะมาเล่าความรู้สึกหลังผ่าตัดแล้วก็อาการหลังผ่าตัดให้ฟังอีกครั้งอย่างละเอียด !!! เลยครับ ยังไงเพื่อนๆก็อดใจรอกันอีกนิดนึงนะครับ^^

สนใจสอบถามได้ที่ STM Style โทร. 02-714-7663 , 02-714-7665
E-Mail: stmstyle@gmail.com 
Facebook:  https://www.facebook.com/STMstyle

Live Chat www.stmstyle.com
Line Officialhttp://line.me/ti/p/@stmstyle

Nov.16, 2016 |  ฟลุ๊ก

          สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน ฟลุ๊กกลับมาแล้วครับ จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับศัลยกรรมกันต่อหลังจากคราวที่แล้วที่ฟลุ๊กสัญญาเอาไว้  หลังจากที่ผมเข้ามาในห้องผ่าตัด พร้อมกับคุณหมอ พยาบาล และพี่ล่ามของทางเอเจนซี่ ผมก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงแล้ว คุณหมอทีมวิสัญญีแพทย์ก็ทำการวางยาสลบให้ผม แต่หลังจากที่วางยาสลบผมก็หลับยาวไม่รู้เรื่องแล้วครับ

 

          ผมมารู้สึกตัวอีกทีตอนทำจมูกจะเสร็จแล้วครับเป็นอาการหลับๆ ตื่นๆ ตอนนั้นไม่เจ็บใดๆ หลังผ่าตัดเสร็จก็ย้ายมาพักฟื้นที่ห้องพัก  พี่ล่ามของเอเจนซี่ คนเดิมคนที่เข้าไปในห้องผ่าพร้อมผม คนที่ดูแลผมตั้งแต่ผมถึงเกาหลี จนตอนนี้ 5555 มานั่งให้กำลังใจผม เพราะผมเป็นเคสผ่าตัดกระดูก ปรับโครงหน้าครับ โหนกแก้ม กราม คาง จมูก ครบเลยครับ

หลังออกจากห้องผ่าตัดครับ สดๆร้อนๆเลย สู้คร๊าบบบบ!!!! ยังไหว ถ้าโอเค ให้ชู 2 นิ้ว !!!!

พี่ล่ามมานั่งเป็นเพื่อนมาเฝ้า นั่งพูดนู้นนี่ให้ฟัง ไม่ให้ผมหลับ 555

 

          เพื่อนๆ อาจไม่ทราบ ไอห้อยๆนั่นสายเดรนเลือดครับ เดรนเลือดที่ค้างอยู่ออก เดี๋ยวคุณหมอก็มาถอดออกให้ครับ มันดูน่ากลัวใช่ไหมครับ??  5555   ไม่ต้องกลัวครับไม่อันตราย แล้วเลือดที่เดรนออกมามันเป็นเลือดเสียครับ ออกไม่เยอะ นิดเดียวเองครับ ไม่ต้องตกใจนะ ดูที่ถุงสิ มีนิดเดียวเอง^^

 

          สำหรับการพักฟื้นหลังผ่าทางล่ามแจ้งว่าห้ามหลับครับ ต้องถ่างตาตื่น พยายามหายใจเข้าออกเพื่อไล่ยาสลบออกจากปอดตอนนั้นหิวมากและผมง่วงมากกก เช่นกัน T_T ผมไม่มีอาการมึนหัวหรืออยากอาเจียนเลย สักพักคุณหมอก็เช้ามาเช็คครับ เคสผมเป็นเคสที่เลือดออกหลังผ่าตัดน้อยมากปกติเลือดที่เค้าให้มาจะมีเลือดของคนไข้อย่างน้อยครึ่งถุงแต่ผมมีนิดเดียว หน้าก็ไม่บวมรู้สึกแค่ชาๆ ที่ปาก

คุณหมอมาหามาดูอาการครับ

รูปนี้เป็นรูปวันที่ 1 หลังการผ่าตัดศัลยกรรมครับ พันหน้าเอาไว้เป็นมัมมี่เลย -_-“

        การพักฟื้นอีกอย่างที่ทางเอเจนซี่แนะนำผมมาคือให้นั้งหลับครับ 5555 ฟังแล้วดูทรมานเน๊อะ จริงๆแล้วไม่เลยครับ

คือเตียงที่ผมนั่งหลับ มันเป็นเตียงนอนไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับขึ้นลงได้ครับ ผมแค่ปรับให้ให้ด้านหัวเตียงขนานขึ้นมา

เท่านั้นเองครับ หลับสบาย ปกติครับ และ เนื่องจากเคสผมอาการฟื้นตัวค่อยข้างดี เลยได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วกว่าเคสอื่นๆครับ

เข้ามาเช็คอาการกับคุณหมอครับ

กำลังประคบเย็นครับ ช่วยให้ยุบบวมไว้ขึ้นครับ ประคบเย็นไม่เกิน 72 ชม. หลังผ่าตัด

รูปวันที่ 2 หลังการผ่าตัดศัลยกรรมครับ เอาผ้าก๊อตออกไม่เป็นมัมมี่แล้วครับ ^^

 

          หลังจากผ่าตัดวันที่ 2 ผมรู้สึกแค่อึดอัดที่ต้องรัดผ้าครับ มันรู้สึกไม่ชิน แต่ดีที่ผมไม่มีอาการใดๆเลย ที่กังวลแค่อยากล้างแผลให้เสร็จครับ  พอพยาบาลจะมาล้างแผลและเปลี่ยนผ้าให้ผมใหม่ตอนนั้นโล่งขึ้นเยอะเลยครับ

รูปวันที่ 3 หลังการผ่าตัดศัลยกรรมครับ หน้าเริ่มบวมกว่าเมื่อวาน ยังต้องใส่ผ้ารัด^^

 

        วันที่ 3 ผมรู้สึกถึงความบวมที่มากกว่าเมื่อวาน หน้าตึงจนรู้สึกได้ แก้มมาเต็ม เพื่อนแซวว่าขึ้นอืด5555 แต่ดีที่ผมไม่มีอาการปวดแผลใดๆ เลย เพราะผมกินยาตรงเวลา และทำตามข้อแนะนำของคุณหมอ เรียกได้ว่าปฎิบัติตัวตามระเบียบอย่างเคร่งครัด  ดูแลตัวเองเต็มที่

วันนี้พี่ล่าม จะพาผมไปเดินเล่นครับ เพื่อช่วยให้ยุบบวมไวขึ้น ไปสิครับ ผมชอบอยู่แล้ว  ไปเปิดหูเปิดตาด้วย

ตลกตัวเอง เหมือน ปาปั๊กเป้ามั๊ยยย ??? 55555 ก็วันที่ 3 เองมันก็บวมปกติ 55

พี่ล่ามพามาชมพระราชวังเก่าแก่ครับ อารมณ์แบบ พิพิธภัณฑ์ เลยครับ

รูปวันที่ 4 หลังการผ่าตัดศัลยกรรมครับ หน้ายังบวมอยู่แต่สังเกตดีๆมันยุบไปนิดนึงนะ 55

 

        วันที่4 วันนี้ ผมโอเคมากเลยไม่เจ็บแผลเลยครับ  คงเพราะเมื่อวานผมไปเดินเล่นมา วันนี้พี่ๆของทางบริษัทเอเจนซี่ จะพาผมไปเดินเล่นครับ พอดีผมอยากไปซื้อของเอากลับไปฝากพ่อกับแม่ แล้วก็เพื่อนๆที่ไทยด้วยครับ  ไหนๆก็มาเกาหลีทั้งที

เดินเพลินจนลืมไปเลยว่าตัวเองทำศัลยกรรมมา 555

มาเกาหลีทั้งที พลาดไม่ได้เลยที่นี่ COEX Mall !!!

รูปวันที่ 5 หลังการผ่าตัดศัลยกรรมครับ หน้าผมเริ่มยุบลง หมอเอาผ้ารัดออกจากหน้าแล้วววว

 

         วันที่5 สังเกตุได้ว่าหน้าผมอาการบวมลดลงเยอะ อาจจะเพราะว่าเมื่อวานผมเดินเยอะ  จึงๆแล้วพี่ล่ามเค้าแนะนำผมว่าการเดินทำให้เลือดไหลเวียน และสูบฉีดไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดี ส่งผลให้ยุบบวมเร็วครับ      

     

       วันนี้ผม ขอพี่ล่ามไปเดินเล่นอีกครับ อยากจะชมประเทศเกาหลีด้วยว่าแต่ละทีเป็นยังไง ไหนๆก็มาแล้ว นอกจกหล่อกลับไป ก็ได้เป็นการพักผ่อนไปในตัวด้วยครับ 5555

ลานน้ำพุครับ อันนี้จะชอบมีผู้คนมาเดินเล่นแถวๆนี้  ช่วงเย็นๆจะมีเด็กมาเล่นน้ำพุกันครับ วิ่งเข้าไปตรงกลางเลย 555

เดินเที่ยวตั้งแต่กลางวัน จนมืดเลยครับ

เดินเที่ยวตั้งแต่กลางวัน จนมืดเลยครับ

รูปวันที่ 6 หลังการผ่าตัดศัลยกรรมครับ หน้าผมยุบลงมากกว่าเดิม เยอะเลยครับ เอาผ้าก๊อตออกจากจมูกแล้ว

 

        วันที่6 จมูกเริ่มเป็นทรง สังเกตุได้ว่าปลายจมูกผมเริ่มโอเคขึ้นเห็นทรงชัดขึ้นครับ ค่อยข้างลุ้นเพราะจมูกเป็นส่งที่กังวล

ตั้งแต่แรกว่าจะทำออกมาประมาณไหน  ทรงจะใกล้เคียงกับที่ใจอยากได้รึเปล่า  เพราะหลังผ่าตัดวันแรกปลายจมูกผมดูเชิด ไม่แน่ใจอาจเพราะยังบวมอยู่ ผมอยากได้ปลายเป็นติ่งลงมานิดนึงครับ จะบอกว่าเป็นทรงหยดน้ำเลยมันก็ไม่ใช่ซะทีเดียวครับ อธิบายไม่ถูกเลย5555 ส่วนโหนกแก้ม และกราม คางที่ยื่นนั้น ไม่ห่วงเลยครับ

รูปวันที่ 7 หลังศัลยกรรม วันนี้คุณหมอนัดผมไปตัดไหมแล้วครับ

 

         วันที่7 วันนี้ผมมีนัดเข้าไปตัดไหมที่จมูกครับ อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ พอตัดไหมเรียบร้อยเห็นทรงจมูกชัด ผมโอเคมากเลยเป็นแบบที่ผมต้องการ สำหรับคนที่ไปทำจมูกผมแนะนำนะครับว่า บอกคุณหมอไปเลย บอกให้ชัดเจนไปเลยนะครับอยากได้แบบไหน  ทรงประมาณไหน ถามคุณหมอให้เคลียทำได้? ไม่ได้? ยิ่งมีรูปตัวอย่างยิ่งโอเคครับ

 

         ผมได้มีโอกาสเจอคุณหมอก่อนกลับไทยครับ คุณหมอยังชม ผมว่า ผมไม่มีอาการช้ำเลย ฟื้นตัวก็เร็วกว่าเคสอื่นๆที่หมอเคยเจอมา อาจเพราะผมดูแลตัวเองอย่างดีทำตามที่คุณหมอและพี่ล่ามของทางเอเจนซี่แนะนำ 555

 

         หลังกลับไทยมาพี่สาวผมทักแค่ว่าเมื่อไรจะหายบวมเพราะยังไม่เห็นอะไรชัดเจนมาก ส่วนคุณแม่ค่อนข้างห่วงผมมาก เพราะเป็นการศัลยกรรมที่เยอะ อยากให้ทำแต่ก็ห่วงเรื่องความปลอดภัย คุณแม่กังวลเรื่องอาการบวม แต่ผมเห็นคนอื่นแล้วผมว่าผมดูปกติมากครับ

ครบ 2 สัปดาห์ หลังศัลยกรรม หน้าผมยุบเร็วมากครับ เงยโชว์รูจมูกด้วย เห็นขนจมูกรึเปล่า5555

 

          ครบ 2สัปดาห์ ผมไม่มีอาการช้ำหน้าผมเหมือนคนที่ดูอ้วนขึ้น ดูแก้มยุ้ยแค่นั้นเองครับ  ไม่มีใครทักว่าไปทำอะไรมาก บางคนมองไม่ออก ว่าผมไปศัลยกรรมมา แต่จะชมผมว่าดูดีขึ้น หล่อขึ้น นะ 555 ยิ้มเขิลไปสิครับ

          หลังจากนี้ผมมีงานซีรี่ย์รออยู่ครับ คาดว่าจะหายทันถ่ายพอดี รอบตัวผมชมว่าจมูกผมทรงโอเคมาก ผมชอบนะตอนนี้เป็นธรรมชาติมาก

ครบ 1 เดือนแล้วครับ หน้าเริ่มเข้าที่เป็นธรรมชาติมากเข้ากล้องแล้วรู้สึกมั่นใจขึ้นเยอะเลยครับ^^

 

         ตอนนี้ครบ 1เดือนแล้วหน้าผมดูปกติ เพื่อนผมชมว่าดั้งผมเนียนมากดูธรรมชาติจมูกสวยมีแต่คนชมครับ เล็กลงโด่งขึ้น จุดที่กังวลที่สุดตอนนี้ไม่กังวลแล้วครับ ส่วนคางที่มองแล้วยื่นออกมาเวลาถ่ายรูปหรือออกหน้ากล้องตอนนี้ไม่ยื่นแล้ว กรามก็ไม่มี โหนกแก้มก็หายไป ทุกอย่างดูโอเคสำหรับผมตอนนี้ก็รอแค่ ให้อาการบวมยุบตัวลง รอกระดูกเข้าที่แค่นั้นเองครับ

ที่ผมทำไปจะมีศัลยกรรมจมูก  ศัลยกรรมโหนกแก้ม  ศัลยกรรม  V-Line (กราม+คาง)

Before 

After 

Selfie

หมายเหตุ: ภาพ before/after ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละบุคคลแตกต่างกัน

เรียบเรียงโดย STMstyle

รูปภาพ STMstyle

916/18 ถ.สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ)  แขวงคลองตันเหนือ  เขตวัฒนา  กทม. 10110

สำนักงานใหญ่ (กรุงเทพฯ) stmstyle@gmail.com  \  Tel: 02-714-7665

สำนักงาน สาขาเชียงใหม่ stmstylechiangmai@gmail.com  \  Tel: 053-245193

(Call Center เปิดให้บริการทุกวัน 09.00 - 21.00 น.)

OPENING HOURS

Mon - Fri: 9 PM - 18 PM  ​

bottom of page