หนังสั้นที่คุณต้องดูก่อนตัดสินใจไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี

Nov.07, 2016 | เร

เรมาเล่าประสบการณ์ที่ทำให้เรได้ไปศัลยกรรมถึงที่เกาหลีค่ะ เรเป็นสาวประเภทสองค่ะ เรื่องศัลยกรรมถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก คลุกคลีวงในกับเรื่องนี้ตลอดค่ะ ข้อมูลจะแน่นมากมาจากประสบการณ์จริงและมาจากคนรอบๆตัว

รูปเรก่อนทำศัลยกรรมที่เกาหลีค่ะ ให้เห็นทุกๆมุมเลย

ปัญหาที่ทำให้เร อยากทำศัลยกรรมมีอยู่ 3 อย่างค่ะ ก็คือ จมูก ปาก และคาง

จมูก เรทำศัลยกรรมจมูกมาแล้วค่ะ ตั้งแต่ ม.5 อยากทำศัลยกรรมจมูกนานแล้วเพราะเราดั้งไม่โด่ง

อยากทำตั้งแต่เด็กเลยเพราะคิดว่าน่าจะทำให้ดีขึ้น ก่อนตัดสินใจทำถามเยอะมาค่ะ หลังเวทีนางงามเข้าไปคลุกคลีไปถามข้อมูลต่างๆที่พวกนางนามไปทำมา เหตุผลที่ตัดสินใจทำกับคลินิกแรกนี้เพราะเห็นคนทำออกมาแล้วสวย ตอนแรกที่เจอคุณหมอตอนนั้นคุยน้อยมากค่ะ คุณหมอวัดและประเมินบอกว่าทำได้ประมาณไหน ถ้าโด่งมากจะไม่เข้ากับหน้าเรา หลังจากทำมาช่วงแรกบวมมาก เพื่อนก็ทักว่าไม่สวยเลย แต่ก็มีเพื่อบางคนคอยบอกว่าไม่ต้องสนใจเพราะตอนนั้นยังไม่ 1 เดือน อยู่กับจมูกอันนี้มานานค่ะ ตอนเข้าที่จากที่เพื่อนว่ากลายเป็นชมว่าสวยมาก ปลายสวยใครๆ ก็อยากได้ทรงแบบเรา แต่พอเริ่มเป็นนักแสดงช่างแต่งหน้าก็ทักว่าปลายเราสวย แต่สันควรที่จะโด่งกว่านี้นะ ช่างแต่งหน้าอยู่ในวงการมานานก็ต้องเห็นมาเยอะว่าถ้าจะให้เป๊ะต้องเพิ่มเติมตรงไหน ตอนนั้นก็เริ่มคิดว่าอยากให้มันโด่งกว่านี้ตามที่เค้าแนะนำเรามา

ส่วนปากแค่อยากให้ปากบางเป็นกระจับ คางก็เช่นกันค่ะ หลังจากที่ทำจมูกมาคางยังสั้น ปัญหาคางเดิมก็คือสั้นนี่ละค่ะ พอทำจมูก็คิดว่าน่าจะเข้ากัน หน้ายังดูใหญ่อยู่เลยหลังจากทำมา

นี่คือรูปปากเรค่ะ เอ้าซูมไปชัดๆๆๆ

ตอนแรกการไปทำที่เกาหลีนี่ไม่อยู่ในหัวคิดหรือความหวังเรเลย เพราะทั้งเรื่องราคาค่าทำ ค่าตั๋ว ค่าที่พักสาระพัด มันต้องแพงแน่นอน ตอนนั้นได้ข่าวมาจากคนรู้จักอีกทีว่าทางบริษัท STMstyle เค้ามีโปรเจคทำรีวิวศัลยกรรม คิดว่าตัวเองคงไม่ได้หรอก แต่อยากลองเข้ามาปรึกษาดูก่อนก็ไม่เสียหายอะไร ก่อนเข้ามาปรึกษาหาข้อมูลบริษัทพอสมควรค่ะ หาเพิ่มว่าเค้ามีคนไปทำจริงๆ ไหม เข้าไปดูใน Facebook ดูรายการ Let me in เค้าก็มีลูกค้าจริงๆ นะ

ตอนเข้ามาปรึกษา คนให้คำปรึกษาคือคุณคิมค่ะ ตอนนั้นไม่เกร็งนะ เพราะมีล่ามอยู่ด้วยอธิบายให้ฟังเข้าใจดี จุดที่คุณคิมแนะนำตามนี้เลยค่ะ

1. จมูก พอคุณคิมเจอเรคุณคิมบอกเลยว่าต้องแก้ใหม่ แค่แก้ก็สวยแล้ว

2. โครงหน้า หน้าไม่สมดุลกัน โหนกแก้มใหญ่ แต่ช่วงล่างลงมาเรียวแล้วเลยทำให้ไม่สมดุลกัน เหมือนสตอเบอร์รี่ที่ตรงกลางใหญ่ ตอนนั้นก็อยากทำนะเค้าพูดอะไรมาอยากทำหมดเลย 55555555

อันนี้ถามเค้าเพิ่มเติมเอง เราอยากทำให้เค้าแนะนำ

- ตา อยากทำให้โตขึ้นอีกนิด แต่คุณคิมบอกว่าตาสวยอยู่แล้วไม่ต้องทำก็ได้แต่อาจต้องปรับกล้ามเนื้อตาเพราะตาดูเหมือนคนง่วงนอน

- ปาก เรอยากให้ปากบาง เป็นกระจับ แค่ริมฝีปากบนนะ คุณคิมบอกว่าที่เกาหลีไม่นิยมทำเท่าไร ซึ่งตอนนี้ก็โอเคอยู่แล้วด้วยปากสวยอยู่แล้ว

หลังปรึกษาเสร็จก็ยัง 50-50 อยู่นะ คิดว่าไม่ได้ไปเกาหลีหรอก ตอนรู้ว่าได้ไปทำที่เกาหลีตอนนั้นตกใจมากบอกทุกคนที่บ้านเลยค่ะ เริ่มเตรียมตัวเก็บของ เสื้อผ้าต้องพร้อมรองเท้าบูทก็เอาไปนะ อิอิ

เรมาถึงสนามบินแล้วค่ะ เตรียมตัวบินไปทำสวยที่เกาหลี บินกลางคืน ถึงเกาหลีเช้าค่ะ ^^

วันเดินทางไม่กลัวค่ะ เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกเลย ตอนถึงเกาหลีตกใจกับตม. มาก มีคนไม่ผ่านเยอะมากค่ะ แต่ก็ไม่กลัวนะเพราะเราไปอย่างถูกต้องเรามีเอกสารที่ทางบริษัท

เตรียมให้มาด้วย พร้อมมากคิดในใจว่ายังไงฉันก็ไม่ได้เข้าห้องนั้นหรอก หึ .. พอพึงคิวเราปุ๊ปทางตม. ถามมา 3ข้อ ถามเป็นภาษาอังกฤษค๊าาา ไอ้เราก็ไม่เก่ง ข้อสุดท้ายดันตอบผิดไป โดนเชิญเข้าห้องดำทันที ในห้องคนอยู่เยอะมากค่ะ

มาเกาหลีครั้งแรกประสบเจอเหตุการณ์ห้องดำตอนนั้นสงสัยมากเราผิดอะไรหรอเค้าจะเรียกเป็นคิวๆ ไป พอมาถึงคิวเรานะ ก็ถามตอบกันไป เจ้าหน้าที่เค้าก็ทักทายเรเป็นภาษาไทย สวัสดีค่ะ เรเลยใจชื้นขึ้นมาหน่อยค่ะว่า เค้าพูดไทยได้ เจ้าหน้าที่คนที่ถามเป็นคนเกาหลีนะคะแต่พูดภาษาไทย ดีที่คุยกันรู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ถามเรว่ามาทำอะไรที่เกาหลี มากี่วัน กลับวันไหน โรงพยาบาลอะไรที่ไปทำศัลยกรรม ประมาณนี้ค่ะที่ถาม เรก็พูดความจริงกับ เจ้าหน้าที่ ตอบความจริงไม่โกหก บวกกับพี่ล่ามของทางเอเจนซี่เข้ามาช่วยอธิบายเพิ่มด้วย ว่าเรมาทำศัลยกรรมที่เกาหลี เจ้าหน้าที่เค้าก็เช็คไปทางโรงพยาบาล เพื่อยืนยันว่าเรมาทำศัลยกรรมจริงๆ ไม่ได้หนีเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย และอีกอย่างเรมีเอกสารครบถูกต้องคะ ทางโรงพยาบาลยืนยัน เรก็เลยได้ออกมาจากห้องดำนั่น คือโล่งมากกกกกก

เรขออนุญาติแนะนำเพื่อนๆ หรือคนที่จะมาทำศัลยกรรมนะคะว่าให้ตอบไปตามตรงและชัดเจน

ว่าเรามาทำอะไรที่นี้ อย่าโกหกคะ และเอกสารที่ทางเอเจนซี่เตรียมให้เราอันนั้นสำคัญมากค่ะ ห้ามลืม เอาติดตัวไว้ตลอดนะคะ เพราะเอกสารจะเป็นสิ่งยืนยันเราอีกอย่างว่าเรามาถูกต้อง แค่นี้ก็อุ่นใจผ่านมาได้อย่างสบายแล้วค่ะ

ผ่านตม.มาเรียบร้อย พอออกมาหิวมากเลยค่ะ สงสัยตื่นเต้นไปหน่อย

สำหรับโรงพยาบาลที่เกาหลีนะคะ บอกเลยว่าไม่เหมือนที่ไทยในตึกนึงมีหลายบริษัทมาก เลยถามพี่ล่ามเค้าบอกว่าพื้นที่ของเกาหลีแพงมาก ทำให้มีพื้นที่จำกัดในตึกเลยจะมีหลายบริษัทในนั้น

พอถึงโรงพยาบาลก็พบคุณหมอค่ะ ปรึกษาเลยคุณหมอให้ล่ามถามว่า มีแบบทีอยากได้ไหม? เรเลยหยิบรูปให้คุณหมอดูค่ะ เอารูปแองเจล่าเบบี้ไป 10 รูปเลยค่ะงานนี้คัดมาทุกมุมที่เราชอบ แต่คุณหมอหยิบมาแค่ 2 รูปแค่นั้นค่ะ แล้วเป็นรูปที่เราคิดว่ามุมนั้นไม่สวยเท่าไรเลยหยิบใหม่ให้หมอเป็นรูปมุมที่เราชอบที่สุดเบอร์ตอง!!!! คุณหมอเลยบอกว่าจะพยายามทำให้เหมือนที่สุด

คุณหมอแนะนำแบบนี้ค่ะ

1. รูปหน้า คุณหมอบอกว่าให้ทำโหนกแก้มค่ะ ทำให้หน้าเรียวขึ้นแล้วหมอก็อยากร้อยไหม ถามเราว่าโอเคไหม? เราก็โอเคค่ะ แล้วหมอถามต่ออีกว่าฉีดไขมันด้วยไหม เป็นการฉีดที่หน้าผากและขมับ ซึ่งโอเคมากค่ะ

2. ตา ตอนแรกคิดว่าหมอจะไม่ทำให้คุณหมอบอกให้มองตรง แนะต่อว่าตาเราดูง่วงนอน หมอเลยเริ่มวัดชั้นตาให้ดูประมาณนี้ว่าเราโอเคไหม? การทำเป็นการกรีดกล้ามเนื้อตาแก้ปัญหาตาดูเหนื่อย ดูง่วง

3. จมูก เป้าหมายหลักของการศัลยกรรมครั้งนี้คือแก้จมูกค่ะ

หลังจากนั้นก็ทำการตรวจร่างกายก่อนผ่าตัดปกติตรวจเป็นประจำอยู่แล้วเลยไม่กังวลอะไรคะ ตอนนั้นอดใจไม่ไหวแล้วอยากทำมาเลย เราเลยผ่าการผ่าตัดใหญ่มาแล้ว(ทำหน้าอก)แค่นี้จิ๊บๆ

ตรวจร่ายการก่อนทำการผ่าตัดค่ะ

เดี๋ยวเรจะเข้าห้องผ่าตัดแล้วค่ะ ยังไงขอหยุดเล่าเรื่องรีวิวศัลยกรรมของเรไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ขอเวลาไปทำสวยก่อน ออกจากห้องผ่าตัดจะมาเล่าให้ฟังอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ รอเรก่อนนะคะอย่าพึ่งทิ้งกันไปไหน

สนใจสอบถามได้ที่ STM Style โทร. 02-714-7663 , 02-714-7665
E-Mail: stmstyle@gmail.com
Facebook: https://www.facebook.com/STMstyle

Live Chat : www.stmstyle.com
Line Official : http://line.me/ti/p/@stmstyle

Nov.07, 2016 | เร

สวัสดีคะ เรจะมาเล่าเรื่องที่เรไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีกับทางเอเจนซี่ต่อนะคะ ไม่ให้เสียเวลาที่ทุกคนรอค่อย เริ่มเลยค่ะ พอเข้าห้องผ่าตัดพี่ล่ามของเอเจนซี่ก็เข้าห้องผ่าตัดมาพร้อมกับเรด้วยค่ะ เท่าที่จำได้ตอนแรกเค้าจะเอาไขมันออกมาก่อน เพื่อเอาไปฉีดส่วนหน้าผาก ขมับ หลังจากนั้นก็หลับไปเลยค่ะ

ไม่รู้เรื่องแล้ว ตื่นมาอีกทีตอนทำตา ตอนนั้นเมายาอยู่ค่ะ รู้สึกเบลอๆ หมอบอกให้ลืมตา หลับตา

พอออกจากห้องผ่าตัดพี่ล่ามมาเล่าให้ฟังอีกทีว่าเราพูดไม่หยุดเลยยย พูดอะไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนั้นเรรู้สึกว่าตัวเองหลับไปแบบไม่รู้สึกตัว หลับสบายเลยค่ะ เลยงงว่าตัวเองพูดอะไรไป 55555 ขำตัวเอง

พี่ล่ามมานั่งเฝ้าเร มาคุยเพื่อให้ไม่หลับ หมอบอกห้ามหลับให้หายใจออกเยอะๆเพื่อไล่ยาสลบออก

หลังผ่าตัดวันแรก ตื่นมาก็อ้วกกระจายเลยค่ะ เมายาหนักมากมึนหัวไปหมดเลยอ้วกไป 3 รอบ

มึนๆ ต้องมีคนพยุง ตอนนั้นนะคะตาก็ลืมไม่ได้ ยิ่งลืมเปิดตาออกจะยิ่งรั้ง ทีนี้เรหลับตาเดินเลย คิดในใจตลอดว่าเราคิดถูกหรือผิดที่ทำตา

วันที่ 2 มาพบคุณหมอเพื่อเช็คหน้าเช็คแผลค่ะ อาการปกติไม่มึนแล้ว โรงพยาบาลเค้าบอกว่ายิ่งอ้วกเยอะยิ่งดี อิอิ เหมือนเอายาออก พยาบาลบอกเคยมีลูกค้าที่เป็นแบบเร และน้อยมากๆที่เป็นค่ะแทบไม่พบเลย ที่แพ้อ้วกแบบนี้ แต่ โล่งมากเลยค่ะกินยาตามที่คุณหมอบอกทุกอย่าง

คุณหมอเอาสำลีมาใส่ไว้ในจมูก จนใหญ่มากเหมือนหมูเลยค่ะ T^T แง้ๆๆ

กังวลนิดๆเพราะทรงมันดูสั้นๆ อยู่ แต่เคยผ่านการทำจมูกมาแล้ว เข้าใจดีค่ะตอนแรกที่ทำใครๆ ก็ทักนี้พึงออกมาได้วันเดียวให้กำลังใจตัวเองตลอดค่ะว่าเดียวจะดีขึ้น

คุณหมอกำลังจะเอาสำลียัดจมูกเรค่ะ T^T

หลังจาผ่าตัดวันที่ 2 อาการบวมมาเต็ม บวมทั้งหน้า

วันที่ 3 วันนี้ไม่ต่างจากวันที่ 2 แต่บวมสุดค๊าาา ตาลืมไม่ขึ้นเลย แต่พี่ล่ามและคุณหมอก็แจ้งให้ทราบไว้อยู่แล้วว่าอาการ บวมจะบวมเยอะสุดก็ช่วง 2-3 วันแรกนี่ละคะ หลังจากทำศัลยกรรม ก็เลยรู้สึกไม่ตกใจ ที่หน้าตัวเองบวมไปทุกจุด ช่วงตาที่บวมเยอะเพราะเรทำตาด้วยค่ะ ตกแต่งกล้ามเนื้อตาด้วยเพราะก่อนนี้ตาเรดูง่วงๆคะ

วันที่ 3 บวมหนักกว่าเก่า รับซาลาเปาเพิ่มมั๊ยยยยยคะ 555

วันที่ 4 หน้ายังบวมอยู่ ม่วง ช้ำเหลืองครบค่ะ ไม่ต่างจากวันที่ 3 อาจเพราะเรไม่ค่อยอยากเดินมั๊งค่ะ

พี่ล่ามของทางเอเจนซี่พยายามให้เรเดิน พี่เค้าชวนไปช้อปปิ้งเดินเล่น แต่เรไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ ก็หน้ามันบวมนี่หน่า แอบนอยนะ อยากร้องไห้สัก 38 ล้านครั้ง 555 T_T

อันนี้ วันที่ 4แล้วค่ะ เรทำตา จมูก นะคะ ตาเลยจะบวมๆด้วย

เรไม่ยอมออกไปไหนเลย 1-3 วันแรก ก็เลยเอาแต่นอนอยู่ที่ห้องค่ะ 555 แอบดื้อ จริงๆไม่แอบดื้อ แต่ดื้อเลย แต่วันนี้ เริ่มเบื่อค่ะอยู่แต่ห้อง แต่วันนี้พี่ล่ามบอกว่าจะพาเร ไป Shopping ที่เมียงดง โอ้ววว ^^ ได้ยินแล้วตาโตเลย เครื่องสำอางรอก่อนนน เดี๋ยวจะไปซื้อเธอมา!!!!

ตามที่พี่ล่ามสัญญาเลย มาเดินเมียงดง โอ้ยยยย มีแต่เครื่องสำอางเต็มไปหมดเลยค่ะ เรนี่เลือกไม่ถูกเลย

ตื่นเต้นยิ่งกว่าทำศัลยกรรมอีก55555 สาวสวยก็ต้องคู่กับของสวยๆงามๆจริงมั๊ยค่ะ หุหุ >O<

ว่าแล้วก็เข้าแทบทุกร้านค่ะ กวาดมาเพียบ ของถูกค่ะ แถมบางร้านจัดโปร ซื้อ 1 แถม 1 ซื้อ 10แถม 10 กันไป

บางร้านก็ลดราคา 50% - 70% กันเลยแล้วแต่ว่าร้านไหนจัดโปรโมชั่นอะไรดึงดูดใจลูกค้า

ดูร้านสิค่ะ แต่ละแบรน ซ้ายขวา โอ้ววววว เครื่องสำอางเพียบ!! ซื้อสิค่ะ!! รออะไร ลุย!!

วันที่ 5 เริ่มดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ยุบมาก แต่ถ้าสังเกตที่ตาจะเห็นชัดว่ามันยุบลงเยอะกว่าวันแรกๆมากค่ะ รอยช้ำจางลงแล้วค่ะ คงเพราะเรยอมเดิน พอเดินมันเลบยุบบวมค่ะ 555 เมื่อวานซื้อของมาเพียบค่ะ ทั้งเครื่องสำอาง มาร์คหน้า รองเท้าผ้าใบ จัดมาหมด 5555

หน้าบึ้งถ่ายรูปมา 4 วัน แต่วันนี้ยิ้มค่ะ >_< ยิ้มสิคะ!!! ^^

รูปเปรียบเทียบวันที่ 3 กับวันที่ 5 หลังผ่าตัดสังเกตที่ตาจะเห็นว่าเริ่มยุบแล้วค่ะ

วันนี้พี่ล่ามก็พามาเดินเล่นอีก เรไม่ดื้อแล้วค่ะ ยอมออกมาแบไม่ขัดขืน ที่นี่คนนิยมใส่แว่นกันเยอะค่ะ เพราะว่าลมแรง และแดดแรงค่ะ บางคนไม่ใส่แว่นสายตา แต่ใส่กันลมเพราะตาจะแห้งค่ะ เลยหาซื้อแว่นเท่ๆสวยๆได้ง่ายค่ะ ในส่วนของคอนแทคเลนส์ก็มีให้เลือกมากมายเลยค่ะ เป็นร้านขายแว่นและคอนแทคเลนส์โดยเฉพาะ

วันที่ 6 รอยช้ำเริ่มดีขึ้นค่ะ เริ่มจางเป็นเหลืองๆละคะ หมอบอกว่าถ้ามันเป็นสีเหลืองๆจะเริ่มหายและจะเริ่มดีขึ้น วันนี้จะไปเดินเล่นต่อนะคะ พี่ล่ามพา ไปไหว้พระเจ้าเซจงด้วยค่ะ ขอพรท่านให้ค่ะ

วันที่ 7 วันนี้ตัดไหมค่ะ เริ่มเข้าที่แล้วนะคะตอนนี้ แต่ยังช้ำม่วงๆ บริเวญตาอยู่ แล้วช่วงจมูกก็ยังเหลืองๆ อยู่ค่ะ คุณหมอบอกให้ลืมตาเยอะๆ แล้วหมอก็ชมเราว่าตา กับจมูกเราจะสวยแล้วนะ

(ตอนนั้นคิดว่าหมอล้อเล่น เอาอะไรมาเห็นเค้าเห็นจากอะไรบวมขนาดนี้ 5555)

ไหนๆ ก็เจอหมอวันสุดท้ายแล้วเลยถามว่าจมูกจะยาวกว่านี้ได้อีกไหม? คุณหมอบอกว่าจมูกเรายังบวมอยู่เลยดูสั้นนานไปกระดูกอ่อนเราจะยาวกว่านี้ค่ะ

ตัดไหมออกแล้วค่ะ รอเวลาให้หายบวม จะสวยแล้วนะ!!!

หลังจากกลับไทยมา ที่บ้านเจอหน้าก็บอกว่าไม่สวยเลยเราเข้าใจนะคะ เพราะมันบวมมาก อีกอย่างแค่อาทิตย์เดียวเอง จะให้ยุบไว้เหมือนจรวดพุ่งขึ้นท้องฟ้ามันก็ไม่ใช่555 เลยอดทนรอสวยค่ะ

เข้า 2 อาทิตย์ ก็ยังบวมอยู่ค่ะ เหมือนที่เล่าให้ฟังทุกๆครั้งอาจเพราะเรเป็นคนยุบบวมช้าร่างกายปรับตัวช้าค่ะ เลยทำให้บวมและยุบช้ากว่าปกติ 55555555 ค่ะ

การยุบบวมขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละคนคะ แล้วเรตอนที่พี่เค้าชวนไปเดินเรก็ไม่ยอมเดิน อันนี้เป็นเหตุผลอีกข้อที่ทำให้เรยุบช้ากว่าคนอื่นจากที่สังเกตและถามๆพี่ๆก่อนศัลยกรรม ยิ่งเดินมากมันเหมือนเป็นการออกกำลังกายให้เลือดสูบฉีดค่ะ จะยุบบวมเร็วขึ้น

รูปตอนครบ 2 อาทิตย์ค่ะ เรยุบบวมช้าค่ะ เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ดีขึ้นกว่าช่วงแรกๆ

1 เดือน เพื่อนเริ่มทักว่าหน้าดูยุบลงเยอะ เริ่มเข้าที่กว่าตอนแรก ตอนนี้ดูปกติมากค่ะ แต่ต้องแต่งหน้าก็ยังรู้สึกอยู่ว่าจมูกเรายังไม่เข้าที่ ช่วงซิลิโคนปกติแต่ช่วงกระดูกอ่อนตรงปลายยังไม่เข้าที่ค่ะ รู้สึกได้จากข้างในเลยที่เดียว แต่ปกติแล้วการทำจมูกคุณหมอแจ้วว่าต้องใจเย็นรอเข้าที่ประมาณ 3-6 เดือนแล้วแต่เคสค่ะ นี่พึ่งครบ 1เดือน อยากสวยต้องใจเย็นค่ะ ^^ และต้องแจ้งก่อนว่าเรเคยทำจมูกมาแล้วและการที่ทำจมุกครั้งนั้นที่ไทย ทำให้เรมีแผลคีรอย์ดในรูปจมูกทิ้งไว้ T__T

ตอนนี้ส่วนที่ชอบสุดคือตาค่ะ ขอลบคำที่บอกว่าคิดถูกคิดผิดที่ทำไปเลยนะคะ เพราะถูกใจมาก เพราะตอนแรกตาเร ซ้ายขวาไม่เท่ากัน ข้างนึงมันเล็กกว่าอีกข้างค่ะ ซึ่งตอนนี้ ตาเท่ากัน แล้ว ถ้าไม่ทำคือคิดผิดมากค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ^^

รูปนี้ เป็นรูปที่ศัลยกรรมครบ ครบ 1 เดือนค่ะ No Make up!!!!

ยังไงขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวเรมาถึงตอนนี้นะคะ ยังไงเรจะมาอัพเดรต กันต่อเรื่อยๆค่ะ อย่าพึ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ >^^<

Before

After

After

หมายเหตุ: ภาพ before/after ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงในแต่ละบุคคลแตกต่างกัน

เรียบเรียงโดย STMstyle

รูปภาพ STMstyle

สนใจสอบถามได้ที่ STM Style โทร. 02-714-7663 , 02-714-7665
E-Mail: stmstyle@gmail.com
Facebook: https://www.facebook.com/STMstyle

Live Chat : www.stmstyle.com
Line Official : http://line.me/ti/p/@stmstyle