หนังสั้นที่คุณต้องดูก่อนตัดสินใจไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี

Nov.02, 2016 | ออน

สวัสดีค่ะ วันนี้ออนจะมาเล่าประสบการณ์การไปศัลยกรรมที่เกาหลีค่ะ ซึ่งต้องบอกก่อนนะคะว่าออนเป็นเคสโมเดลศัลยกรรมค่ะ โดยปกติแล้วออนเป็นคนขี้กลัวมาก ก่อนที่ออนจะมาทำศัลยกรรม ก็คิดมาหลายปีมากๆ อยากทำมาโดยตลอด แต่ก็ไม่กล้าทำกลัวออกมาไม่ดี กลัวทำแล้วจะพลาดไม่ได้อย่างที่คิดไว้ พอดีมีรุ่นพี่ที่ออนรู้จักก็แนะนำมาให้เข้ามาปรึกษากับเอเจนซี่ที่ออนเคยร่วมงานกับเค้ามาก่อน มันก็เลยเป็นเรื่องราวศัลยกรรมครั้งแรกของออนค่ะ ทางบริษัทนี้เค้ากำลังมีโปรเจคทำเคสรีวิวศัลยกรรมพอดีและก็เป็นความโชคดีของออน ที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ด้วย บอกตรงๆ นะคะว่ากังวลมากค่ะ แต่ก็เลยลองเข้ามาคุย คิดว่ามาคุยๆ ดูก่อนไม่เสียหายอะไร

ต้องบอกว่าเครื่องสำอางช่วยชีวิตเลยค่ะงานนี้ !! ออนต้องแต่งหน้าเพื่อกลบจุดบกพร่องต่างๆบนใบหน้า

ออนต้องขอท้าวความก่อนนะคะ ว่าปัญหาหลักของเลยที่ทำให้อรอยากทำศัลยกรรม นั้นคืออะไร??

ปัญหาแรกของออนคือ ออนเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปมากๆ ซึ่งปกติออนก็รับถ่ายแบบเล็กๆ น้อยๆ หาเงินค่าขนมอยู่แล้วด้วย แต่ออนเป็นคนที่เวลาถ่ายรูปมุมด้านข้างรู้สึกว่าหน้าไม่มีมิติเลยสักนิดเดียว หรือเรียกได้ว่าจมูกออนแบนสนิท ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาที่ในการถ่ายรูปสุดๆ ออนก็อยากมีอารมณ์ถ่ายด้านข้างแล้วแบบหน้าดูมีมิติกับเค้าบ้าง ก่อนหน้านี้ออนเคยไปปรึกษาคุณหมอมาแล้วบ้าง แต่คุณหมอบอกว่าจมูกของออนเนื้อน้อยเกินไปทำให้ไม่สามารถที่จะทำการศัลยกรรมได้ ตอนนั้นคือ ออนถอดใจแล้วนะคิดว่าคงทำไม่ได้แล้วล่ะ ความรู้สึกคือเฟลมาก แล้วปัญหารองลงมาก็คือใต้ตาคล้ำ เป็นคนที่ตาเหมือนไม่ได้นอน เวลาไม่แต่งหน้าจะดูเหมือนตาโบ๋มากๆ เลยค่ะ แล้วสังเกตุมาตลอดใต้ตาเริ่มลึกขี้นเรื่อยๆ บำรุงทุกอย่างแต่ไม่หายเลย

รูปด้านข้างของออนก่อนศัลยกรรมค่ะ >_< โชว์หน้าสดของออนเลยนะคะเนี่ย T_T

วันที่เข้ามาปรึกษา ออนก็แจ้งเค้าไปเลยว่าอยากทำอะไรบ้าง พี่เจ้าหน้าที่ STM เค้าก็ถามรายละเอียดข้อมูลต่างๆของออนเบื้องต้น ก็อย่างที่บอกอะคะออนเคยร่วมงานกับเค้าแต่เป็นในส่วนเครื่องสำอางค่ะ ไม่เคยคุยเรื่องศัลยกรรมเลยแต่ก็พอมาทราบชื่อเสียงบริษัทมาคร่าวๆ บ้างแล้วว่าค้าเคยทำรายการอะไรมา และวันที่ออนเข้ามาก็มีลูกค้าปรึกษาอยู่ค่ะ แต่รอไม่นานออนก็ได้ขึ้นไปปรึกษา ระหว่างรอก็นั่งดูพวกภาพก่อน-หลังศัลยกรรมที่พี่เจ้าหน้าที่เค้าเอามาให้ดู คือแบบว่าตกใจมาก แต่ล่ะคนเปลี่ยนไปเยอะมากตอนนั้นมั่นใจเลยว่าเคสเราทำได้แน่นอน ภาพตัวอย่างมันดึงดูดมาก ถึงเวลาออนก็ได้ขึ้นไปปรึกษาค่ะ คนที่ให้คำปรึกษาเป็นผู้หญิงชาวเกาหลี ชื่อคุณคิมค่ะ คนเดียวกับที่ออนเห็นในรายการ Let me in พอเจอตัวจริง คุณคิมสวยมากๆ ผิวดูมีออร่ามากกกก ตอนนั้นตื่นเต้นมากจนเหงื่อออกมือเลยค่ะ 5555

นี่เลยค่ะ คุณคิม^^ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมเกาหลี คนเดียวกันกับที่เห็นในรายการ let me in เลยค่ะ

ตอนเข้าห้องไปคุยกับคุณคิม เค้าก็ดูประวัติที่กรอกไว้ มีพี่ล่ามเข้าไปช่วยแปลด้วยนะคะ พี่ล่ามเค้าก็แปลให้ตลอด ว่าความต้องการออนคืออะไร ตอนนี้ขอเล่าแบบเท่าที่นึกออกก่อนนะคะ คุณคิมเค้าก็ถามว่า อยากทำตรงไหน? ไม่ชอบจุดไหน? เคยทำศัลยกรรมมาก่อนไหม? ฉีดอะไรมาบ้าง? ประมาณนี้อ่ะค่ะ

ออนก็ตอบไปตามความจริงว่าออนไม่เคยทำอะไรเลย แล้วอยากทำจมูกเพราะไม่มีดั้ง ที่นี้เค้าก็เริ่มจับที่ใบหน้า ของออน แล้วก็บอกว่า จมูกต้องเสริมขึ้นประมาณ 2 มิล ตัดปีกนิดนึง แล้วก็ลดโหนกแก้ม

จมูกออน ส่วนตัวอยากทำอยู่แล้วค่ะคุณคิมคอนเฟริม์ว่ายังไงก็สามารถทำได้แน่นอน แต่โหนกแก้ม ออนไม่คิดมาก่อนเลยว่าต้องทำด้วย ตอนนั้นไม่เข้าใจวิธีการผ่าตัดแล้วคิดว่ามันอันตราย กลัวมากเพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ แต่คุณคิมก็อธิบายว่าโหนกแก้มที่ออนทำเป็นวิธีใหม่ของเกาหลี ผ่าตัดไม่นาน ไม่ต้องนอกพักฟื้น แต่ก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดีไม่กล้าทำขอตัดสินใจดูก่อน

ซูมมม !!! ให้เห็นหน้าชัดๆ กันไปเลยจ้า ใต้ตาคล้ำ เป็นหมีแพนด้าขนาดแต่งหน้ายังเห็น บำรุงทุกอย่างแต่ไม่หายเลย

ทั้งนี้คุณคิม ก็แจ้งว่าถ้าเดินทางไปถึงเกาหลีแล้วคุณหมอเค้าจะแนะนำอีกที ว่าจะต้องทำอะไรเพิ่ม หรือจะต้องลดอะไร หลังจากที่ปรึกษาครอบครัวแล้วก็เลยตัดสินใจว่าจะทำทั้งหมดทีเดียวเลยค่ะ ทางเอเจนซี่เค้าก็มีล่ามที่ดูแลเราในช่วงที่เราทำศัลยกรรมอยู่เกาหลีด้วย ส่วนนี้เลยเบาใจขึ้นค่ะ

ออนไม่เคยไปไหนมาก่อนเลยค่ะ ครั้งนี้เป็นการบินครั้งแรกแต่ก็ไม่กลัวนะ เพราะทางเอเจนซี่เค้ามีเอกสารให้ครบเราก็เตรียมเสื้อผ้าอย่างเดียว ไฟท์ที่บินเป็นเวลากลางคืนไปถึงเกาหลีตอนเช้าค่ะ

ถึงเกาหลีแล้วค่ะ^^ ขอเซลฟี่ อัพ IG สักรูปนะคะ เอ้า!!! เก็กสวย

พอออกมาจากสนามบินปุ๊ปออนก็เจอคนขับรถที่ทางบริษัทส่งมารับค่ะ เค้าจะถือป้ายชื่อของเราและรออยู่ตามจุดนัดพบที่บริษัทแจ้งไว้ในเอกสาร คนขับเป็นคนเกาหลีสื่อสารกันไม่รอด แล้วตอนนั้นหิวมากเลยค่ะ T_T

เจอแล้วววว คนขับรถชาวเกาหลีที่บริษัทส่งมารับค่ะ ยืนยิ้มหวานถือป้ายชื่อ ออนอยู่เลย^^

เค้ารีบพาไปขึ้นรถจะได้พาไปโรงพยาบาลระหว่างนั้นไม่ได้สนใจอะไรเลยหลับอย่างเดียว เพลียแล้วก็หิวมากตื่นมาอีกทีก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว ตั้งแต่ก่อนมาคิดมาตลอดว่าโรงพยาบาลเค้าต้องเหมือนที่ไทยแน่เลย แต่คือไม่ใช่ไง โรงพยาบาลอยู่ชั้น 5 เปิดเข้าไปก็เจอพนักงานต้อนรับเลย ตอนเจอพนักงานนี้บอกเลยว่า สาวเกาหลีน่ารักมากอะ ผิวดีสุดๆ ขาวทุกคน หุ่นดีมากกก

แอบถ่ายรูปนิดนึง >o< อิจฉาในความน่ารัก หน้าเด็ก และผิวขาวออร่า ของสาวเกาหลี

พนักงานเค้าเอาเอกสารมาให้ออนกรอกประวัติ แล้วก็พาไปถ่ายรูป คราวนี้ก็รอพบคุณหมอ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้เลยค่ะ คุณหมอหล่อมาก(กอไก่ล้านตัว) แล้วก็ใจดีมากด้วยคุณหมอขออนุญาติทุกครั้งที่จะจับใบหน้าสุภาพมาก ปลื้มสุดๆ ><

ว่าแล้วก็ขอถ่ายรูปคู่คุณหมอเป็นที่ระลึกหน่อยดีกว่า เอ้า!!! 1..2..3.. ยิ้มค่ะ

เข้าเรื่องเนอะ คุณหมอถามถึงจุดที่เราไม่ชอบ บอกว่าแก้ไขได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จุดแรกที่คุณหมอแนะนำคือ จมูก คุณหมอถามว่าอยากได้ทรงแบบไหน? ออนก็เอาทรงให้ดู ก่อนมาทางเอเจนซี่แนะนำให้หารูปตัวอย่างที่ชอบมาด้วย และก็บอกความต้องการไปว่าอยากได้แบบนี้ ประมาณนี้ (รูปที่เอาให้คุณหมอดูคือนักร้องเกาหลีชื่อนานะ) คุณหมอดูรูปปุ๊ปก็บอกว่าแบบที่เราชอบนั้นสันจะดูสูงหน่อยโอเคไหม?? แต่เราอยากได้แบบธรรมชาติเลยบอกหมอไปว่าเน้นเรื่องนี้ ที่นี้หมอก็ถามต่อว่าอยากได้ปลายแบบไหน? เน้นมากเรื่องปลายเชิด หรือหยดน้ำ ก็บอกไปว่าอยากได้ปลายหยดน้ำ

ออนเซฟรูปทรงจมูกที่ชอบไว้ในมือถือเลยเปิดให้คุณหมอดู เป็นรูปนักร้องเกาหลีที่ชื่อ นานะ ค่ะ

จุดต่อมาที่คุณหมอแนะนำก็คือตา ส่วนนี้ไม่ได้คุยที่ไทยมาเลยแต่อยากทำอยู่แล้วเพราะใต้ตาคล้ำมาก คุณหมอบอกว่าแก้ไขได้จะทำการเกลี่ยไขมันใต้ตาให้เรียบแล้วเติมไขมันเข้าไปเพราะตาเรามันดูลึก แล้วก็จะฉีดไขมันหน้าผากกับร่องแก้มให้ด้วย ส่วนร่องแก้มนี้คือออนบอกหมอไง ว่าเวลายิ้มแล้วเป็นริ้วรอยที่หน้า แต่คุณหมอบอกยังไงก็ต้องมี แต่จะทำให้มันดีขึ้น 55555555 แล้วก็บอกว่าต้องลดโหนกแก้มด้วยอันนี้รู้วิธีมากจากที่ไทยคร่าวๆ แล้วเลยไม่กลัว นอกจากนั้นก็ทำร้อยไหม เป็นการร้อยไหมกรอบใบหน้าทำให้หน้าเรียวขึ้น

คุยกับคุณหมอจบออนก็ไปตรวจร่างกายต่อ อยากจะเล่าตรงนี้ค่ะพี่ล่ามเค้าอธิบายมาว่าต้องตรวจร่างกายก่อนผ่าตัดออนก็คิดว่าคงเหมือนที่ไทยละ แต่ผิดคาดเครื่องมือเยอะมากอุปกรณ์ทันสมัยดีไม่เคยเห็นมาก่อน ออนเดินตามเค้าไปแป๊ปๆ เสร็จอย่างไวเลยมีตรวจคลื่นหัวใจ X-ray ความดันและปอด จบปุ๊ปก็กลับไปพักผ่อนเพราะผ่าตัดอีกวันค่ะ

เพื่อนออนที่เดินทางไปพร้อมกันผ่าตัดก่อนค่ะ เราเห็นสภาพเพื่อนที่พึงผ่าตัดเสร็จแล้วตกใจเลย ฟิลเหมือนอ้วนขึ้นแก้มบวม 555 แต่เพื่อนบอกว่าไม่เจ็บเลย ซึ่งจริงๆ ตอนนั้นก็เริ่มแอบกลัวนะ คิดว่าหน้าเราจะบวมอย่างเค้าไหม ก่อนผ่าตัดเลยขอสวดมนต์รอบนึงเพื่อความอุ่นใจ

บทสวดมนต์ก็มาค่ะ ท่องแล้วสบายใจ ขอสักนิดนะ สวดจบทิ้งท้าย !!! คุณพระคุณเจ้าขอให้ลูกสวยๆ ด้วยเถิด สาธุ

เอาหละค่ะได้เวลาขึ้นเขียงแล้ววว ได้เวลาสวยแล้ว อย่าถามว่าตื่นเต้นไหม??? ตอบเลยว่ามากกกกกกก!!!!

เดี๋ยวขอพักเบรกไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ ยังไง เดี๋ยวออนจะมาเล่าประสบการณ์ การศัลยกรรมที่เกาหลีให้ฟังต่อ

หลังจากออน ออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว เพื่อนที่รออ่าน รอชมความเปลี่ยนแปลงของออน อดทนรอหน่อยนะคะ แล้วพบกันค่ะ

สนใจสอบถามได้ที่ STM Style โทร. 02-714-7663 , 02-714-7665
E-Mail: stmstyle@gmail.com
Facebook: https://www.facebook.com/STMstyle

Live Chat : www.stmstyle.com
Line Official : http://line.me/ti/p/@stmstyle

Nov.16, 2016 | ออน

สวัสดีค่ะ หลังจากที่ออนเล่าเรื่องการศัลยกรรมของออนให้ฟัง ก่อนที่ออนจะเข้าห้องผ่าตัดจบไป วันนี้ออนจะมาเล่าต่อค่ะว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไงมั่ง พร้อมนะคะ?? เริ่มได้!!

พอถึงเวลาออนก็เข้าห้องผ่าตัด คือตื่นเต้นมาก ขนาดสวดมนต์ไปหลายจบแล้ว ขอพรแล้วยังตื่นเต้นไม่หาย

แต่ยังอุ่นใจที่ พี่ล่ามของเอเจนซี่เค้าเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยค่ะ จะคอยบอกว่าต้องทำอะไรบ้าง ยืนอยู่ข้างๆออน แล้วพี่ล่ามก็บอกให้นอนคว่ำหน้าสักครู่พยาบาลก็เอาอะไรไม่รู้มาทางแขนไอ้เราก็งงๆ เบลอๆ อยู่ ๆ โดนเจาะเลือด วางยาคราวนี้ตกใจ 555555 แล้วโดนวางยาไปหลับไม่รู้เรื่องเลยค่ะ มารู้สึกตัวตอนที่ทำตาเท่านั้น รู้สึกเหมือนมีคนประกบอยู่ข้างๆ คอยบอกให้ลืมตา หลับตานอกนั้นนอนสบายเลย ไม่รู้สึกเจ็บ

แล้วก็มารู้สึกตัวอีกทีคือตอนมีคนปลุกให้ตื่นค่ะ พี่ล่ามมาบอกว่าเสร็จแล้ว ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเมาเหล้า งงๆ เบลอๆ ระหว่างย้ายไปห้องพักเค้าก็ให้เราพูดเยอะๆ เพื่อไล่ยาที่วางออกไปให้หมด ออนก็เลยถามพี่ล่ามเค้าว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว พึงรู้ตัวว่าสรุปผ่าตัดไป 7 ชม. โอ้ว พระเจ้า นานมากกกกก ระหว่างพักฟื้นคุณหมอจะเข้ามาเช็คอาการเรื่อยๆเพื่อตรวจการฟื้นตัวของเรา คุณหมอบอกออนว่าไม่มีปัญหาใดๆ แต่ตอนนั้นคือง่วงมาก ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร เบลอมากค่ะ แต่ก็รู้สึกดี เพราะคิดว่าชั้นจะสวยจริงๆ ล่ะนะ

ตื่นมาแบบงัวเงียแบบเมาขี้ตา หันมาเจอพี่ล่ามนั่งยิ้มหวานให้ คุณหมอก็เข้ามาเช็คอาการตลอดเลยค่ะ

วันแรกหลังการผ่าตัดไม่ได้รู้สึกเจ็บหรืออะไรเลย เพราะว่า หลับตั้งแต่ที่คุณหมอเข้ามาคุยด้วยเลยค่ะ ฟิวแบบหลับกลางอากาศไปเลย

ตื่นมาอีกทีก็เช้าอีกวันนึงแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็ลุกไปส่องกระจกเช็คความสวยซักหน่อย เห้ยยย! หน้าบวมมารู้สึกตกใจ คราวนี้เหมือนตัวเองอ้วนอะ แก้มยุ้ย ไม่ชินหน้าเลยค๊าาา 5555555555

วันที่ 1 หลังการผ่าตัดศัลยกรรมค่ะ รู้สึกตึงๆค่ะ หน้าแอบบวม

วันที่สอง ตื่นมาตาบวมปิดมากกว่าเมื่อวาน ปิดข้างเดียวด้วย!! ขอบคุณที่เหลือให้มองเห็นอีกตั้ง 1 ข้าง ตอนนั้นตกใจมากว่าทำไมตาปิดแบบนี้ชั้นจะทำยังไงดี??? คือมันมีน้ำไหลออกมาหลังผ่าตัดแล้วจับตัวแข็งเหมือนเป็นขี้ตาของเราอะคะ แล้วพอมันแห้งก็เลยทำให้ตามันลืมไม่ขึ้น ก็เลยหาสำลีมาเช็คเองดูก่อน สักพักพยาบาลเค้าก็พาไปเช็คแผลทำความสะอาดให้อีกรอบ

วันที่ 2 หลังการผ่าตัดศัลยกรรม สังเกตุที่ตา บวมเหมือนคนร้องไห้ ช้ำด้วย มีความนอย T_T

วันที่สาม เป็นวันที่นอยมากที่สุด! วันนี้แพลนคือจะออกไปเดินเล่น แต่ตื่นมาตาช้ำกว่าเดิมอีก หางตามีรอยช้ำที่เมื่อวานยังไม่มีเลย เห้ยมาจากไหนอะ??? เราไปโดนมันหรอ มโนไปไกลแล้วอะ แล้วพี่ล่ามเค้าเลยพาออกไปเดินเล่นเพราะจะช่วยทำให้แผลยุบบวมเร็วขึ้นแต่พอกลับมาที่พักอยู่กับตัวเองแล้วเหมือนจิตหลุดไงร้องไห้เลยจ๊าคราวนี้! อยากกลับบ้าน ออนไม่เคยทำศัลยกรรมมาก่อนมันกังวลกลัวหน้าตัวเองไม่ยุบ กลัวหน้าจะเป็นแบบนี้ตลอดไป พี่ล่ามเค้าก็มาปลอบใจบอกว่าถ้าเราเครียดสภาพจิตใจไม่ดีก็จะส่งผลกับแผลทำให้หายช้าเลยตั้งสติตัวเองใหม่อีกรอบ

วันนี้ออนเข้ามาเช็คหน้ากับคุณหมอก่อนไปเดินเที่ยวค่ะ

วันที่ 3 หลังการผ่าตัดศัลยกรรม เสื้อตัวเดิม เพิ่มเติมคือความบวม!! บวมทั้งหน้า ขึ้นอืด555

เช็คหน้ากับคุณหมอเสร็จพี่ล่ามของเอเจนซี่ก็พาออนเดินเที่ยวค่ะ ออนอยากไปตามรอยซีรีย์ เลยขอให้พี่ล่ามพาไปหน่อย
ออน ได้ไปตามรอยซีรีย์ Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ ด้วย เย้ !!!! จุงกิ จุงกิ บิ๊กบอส & หมอคัง
รอช้าอยู่ทำไมเปลี่ยนชุดให้เข้ากับบบรยากาศและสถานที่กันหน่อย ขอชุดทหารหน่อยคร๊าบบบบ

เก็กหน้าเข้มกันหน่อย ดูท่าโพสออนซะก่อน อย่ามาแหย๋มกับพี่นะ หรือจะไฝว้ !!!

วันที่สี่ ปาฏิหาริย์ค่ะ 5555555 อาหารบวมดีขึ้นมาก ตาโตขึ้นกว่าเมื่อวานเห็นชัดเลยว่ารอยช้ำดีขึ้น โล่งใจมากแฮปปี้เลย หลังจากนั้นเดินเที่ยวทุกวันอาการบวมรอยช้ำยุบเร็วมาก ว่าแล้ววันนี้ก็ไปเที่ยวอีก อยากไป Shopping เดินซื้อของฝาก เสื้อผ้า

เลยอ้อนพี่ล่ามของเอเจนซี่ให้พาไปหน่อย พี่เค้าก็ว่างพอดี เลยพาออนไปค่ะ

มีเสื้อผ้าหลายแนวมาก ชุดเด็กๆน่ารักมากค่ะ แล้วก็ของ Handmade ชอบมากกก เลย ต้องซื้อกลับไทยซะหน่อย

วันที่ 4 หลังผ่าตัด โอ้ววว อาการบวมรอยช้ำยุบเร็วมาก มันดีงาม!! ตาที่กังวลสุดมันยุบแล้ว

จนมาถึงวันตัดไหม ทางโรงพยาบาลนัดตัดไหมวันที่ 7 ค่ะ เคยได้ยินมาว่าการตัดไหมมันเจ็บ ก็เตรียมใจไว้ระดับนึงแล้วล่ะ พอตัดจริงมันไม่เจ็บเลย 5555555555 หลังตัดไหมก็กลับไทยเลยค่ะ โบกมือลาเกาหลีแล้ว ก็ดูแลตัวเองอย่างที่คุณหมอสั้งอย่างเคร่งครัด กลับมาก็เรียนตามปกติ แต่ยังไม่แต่งหน้าแค่นั้นเอง 5555

วันที่ 7 หลังผ่าตัดศัลยกรรม หน้าเริ่มยุบ ลงเยอะค่ะ รอยช้ำเริ่มจางลง ผลจากการเดินเที่ยว บอกเลย!!!

เปรียบเทียบ วันที่ 1-7 หลังศัลยกรรมตา ของออนนะค่ะ ก็จะเริ่มยุบลง

ตอนนี้ครบ 1 เดือนแล้วค่ะ ปลายจมูกสวยมากใครๆ ก็ชมพอใจมาก หมอเก่งมากหน้าก็เด็กขึ้น ชอบมากค่ะแต่ยังไงก็ต้องรอเข้าที่อีก 6 เดือน ออนจะมาอัพเดทเรื่อยๆ ยังไงอดใจรอดูความเปลี่ยนแปลงของออนกันนะคะ